ขนมเวเฟอร์รูปปลา Meito

มารีวิวขนมญี่ปุ่นกันต่อนะจ๊ะ
คราวนี้เป็นขนมรูปปลาน่ารัก อันมีภาพลักษณ์ออกจะญี่ปุ๊นญี่ปุ่น
ปกติแล้วขนมญี่ปุ่นที่ทำเป็นรูปปลาแบบดั้งเดิมจะเป็นขนมเนื้อแป้งนุ่มนิ่มประกอบด้วยไส้ถั่วต่างๆ เรียกว่าไทยากิ
มาแบบนี้กลายร่างเป็นเวเฟอร์ อาจเรียกได้ว่าเป็นไทยากิฉบับเลียนแบบ แต่เราก็ไม่รังเกียจ
ข้างในคุณเวเฟอร์ปลานี้เป็นไส้ช็อกโกแลตแบบแห้งๆ อารมณ์เหมือนกิน Calpico ของกูลิโกะ (ที่เป็นรูปถ้วยไอติม) ข้อดีก็คือไส้ช็อกโกแลตจะมาเต็มตัวปลาเน้นๆ ไม่ได้มีเยอะแค่ตรงด้านบนโคนแบบกูลิโกะ
ราคา 1 ซองต่อปลาเวเฟอร์ 1 ตัว ก็เกือบร้อยบาท (จำราคาแน่ๆ ไม่ได้) เป็นราคาที่ดุอยู่เหมือนกัน
แต่ก็ทำให้อารมณ์ดีขึ้นได้ เพราะความน่ารักของเจ้าตัวปลานี่เอง
กินขนมทีก็อารมณ์ดีที อิอิ.

ส้วมโซดา ใช่, ส้วมโซดา (ใช่ นี่คือบล็อกรีวิวขนม)

เคยคิดกันบ้างไหมว่าจะลองดูดน้ำจากโถชักโครกดูซักครั้ง
แล้วขนมยี่ห้อนี้ก็ทำให้ฝันเราเป็นจริง เย้!
ขนมนี้อยู่ในหมวดขนม DIY หรือขนมของเล่นที่คนญี่ปุ่นคิดค้นมาให้เราได้สนุกกับการกินมากขึ้น
เมื่อแกะกล่องมาก็จะเจอชิ้นส่วนตัวต่อชักโครกสีสันสวยงาม ให้เรามาต่อเอง มีให้เลือกสี่สีสวยคือสีฟ้า ชมพู เขียว และสีดำใส
แน่นอนในกล่องต้องมีส่วนผสมของที่เราจะต้อง (ได้) กิน มา เป็นซองผงโซดา 2 ซอง
วิธีการกินจากโถส้วมอย่างเอร็ดอร่อยก็คือ
1. เปิดฝาตรงที่เป็นแทงก์น้ำด้านหลัง
2. ฉีกซอง ใส่ผงโซดาลงไป แล้วเขย่าๆ ให้เรียบร้อย
3. เทน้ำเย็นตามลงไป
รอซักพัก เจ้าผงโซดาก็จะละลายในน้ำแล้วอืดเป็นฟองฟู่ขึ้นมาจนปริ่มโถ
ในกล่องยังมีหลอดมาให้พร้อม
ชิมรสดูแล้ว ซองสีแดงน่าจะเป็นรสโคล่า (อันนี้ส่วนตัวอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออก) ซึ่งรสชาติใช้ได้ทีเดียว
ซองสีเขียวก็น่าจะเป็นรสมะนาวโซดา ส่วนตัวชอบรสโคล่ามากกว่า อร่อยดี
มันฟินก็ตอนน้ำมันฟูขึ้นมาเต็มโถนั่นแล
ฟินอีกรอบก็ตอนเอาหลอดดูดจากโถ ดังซู้ดดด แคร่กกก
เพื่อนมองด้วยความอิจฉาทีเดียว.

ชิโร่ย! ชิโร่ย!

ถึงคิวรีวิวสุดยอดขนมฮิตตลอดกาล ที่เรานิยมซื้อกันเป็นของฝากจากประเทศญี่ปุ่น "ชิโร่ย โคอิบิโตะ" (Shiroi Koibito)
ชิโร่ย เป็นคุ้กกี้บางกรอบที่เรียกกันว่า Langue de Chat หรือ "ลิ้นแมว"
แพ็คเกจก็สวยงามอยู่แล้วแต่ก็ยังมีการห่อด้วยกระดาษสีน้ำเงินอีกรอบ เลยทำให้ยิ่งหมาะกับการให้เป็นของขวัญ
ห่อย่อยทุกชิ้นมีระบุวันหมดอายุด้านหลัง ฉะนั้นจะเก็บไว้ค่อยๆ ทยอยกิน ทยอยฟิน ก็ไม่ต้องกังวลถึงวันหมดอายุ
ชิโร่ยค่อนข้างเป็นขนมญี่ปุ่นที่ดังอยู่มาก เวลาจะเปิดห่อกินครั้งแรกเราจะค่อนข้างเกร็งพอสมควร
เพราะนี่คือ King แห่งขนมญี่ปุ่น!!
ไม่รู้เพราะการจัดทำเป็นแพ็กเกจย่อยอย่างดีด้วยรึเปล่านะ ทำให้เก็บความกรอบของเนื้อคุ้กกี้ไว้ได้ดีมาก ไส้ครีมวานิลลาก็หอมนุ่มละมุนลิ้น ขอบของตัวคุ้กกี้ที่เกรียมได้ให้รสสัมผัสที่สุดยอด
ชิโร่ย ทำให้เราทึ่งว่า ขนมที่พร้อมกินแบบนี้ (แบบที่ไม่ต้องไปซื้อขนมอบอุ่นใหม่ๆ ในเบเกอรี่) ก็อร่อยได้ขนาดนั้น
ชิโร่ยหนึ่งกล่อง เมื่อนำเข้ามาในไทยแล้วราคาค่อนข้างสูง เท่าที่เห็นอยู่กล่องขนาด 12 ชิ้นขายกันที่ 650 บาท
หากจะบินไปซื้อชิโร่ยถึงญี่ปุ่นเองก็จะได้ราคาดีหน่อย กล่องละ 24 ชิ้น ตกกล่องละไม่ถึง 300 บาท
จงซื้อชิโร่ยให้คนที่คุณรัก เพื่อบอกเขาว่าคุณได้เลือกสิ่งที่ดีที่สุดมาให้
ไม่ได้ค่าโฆษณาใดๆ จากชิโร่ยเลยนะเนี่ย.

ถั่วพิชชาชิโอญ๊่ปุ่นรสเผ็ด

อั่นแน่
วันนี้ มารีวิวถั่วพิชชาชิโอญี่ปุ่นรสพริกป่น หรือรสเผ็ด กัน
ปกติที่คนจะฮิตสั่งหรือซื้อเป็นของฝากเวลากลับจากญี่ปุ่นจะเป็นถัวพิชตาชิโอรสวาซาบิถุงใหญ่
จะบรรจุซองจิ๋ว ซองละ 3-4 เม็ด แยกมาข้างใน ห่อใหญ่จะขากันที่ราคาห่อละ 450 บาท
ขอบอกว่า ยังไม่เคยลองรสวาซาบิเรย
ผ่าเหล่ามากินรสเผ็ด ภาคพิศดารก่อน หุหุ
อันว่ารสเผ็ดของเขา เมื่อลองแล้วคิดว่าไม่เผ็ดเท่าประมาณมารูโจ้บ้านเรา
แต่จะมีรสพริกที่เผ็ดน้อยๆ สไตล์ญี่ปุ๊นญี่ปุ่นอยู่ เป็นเอกลักษณ์ดี
เคี้ยวแล้วได้รสเนยแฝงมานิดๆ พอมันๆ
ราคา ไม่แพงเท่าถั่วรสวาซาบิด้วย
ใครที่อินดี้ หลากลองพิชตาชิโออันเป็นหนึ่งในขนมสุดฮิตของญี่ปุ่นดู ก็มาลองรส Cayenne นี้ได้ไม่ว่ากัน
แล้วอย่าลืมแบ่งให้เพื่อนข้างๆ กินด้วย ในซองมีตั้งหลายถุง.

ขนมรส "หอยเม่น"

อั๊ยย่ะ คราวนี้ได้ลองคุณขนมอบกรอบ 3 รส ในถุงรวม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณขนมรส "หอยเม่น" (!!) ที่เราเห็นบนซองแล้วรีบตัดสินใจ add to cart เรย
ขนมนี้ยี่ห้อ Bonchi ซึ่งเป็นยี่ห้อที่ค่อนข้างเก่าแก่ของญี่ปุ่น ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1931 โน่น
ทั้งห่อใหญ่จะประกอบด้วยห่อเล็กแยก 8 ห่อ มี 3 รสด้วยกัน คือ รสหอยเม่น รสกุ้ง และรสปลา สั่งทางเวบราคาห่อละ 350 บาท (ก็ตกห่อเล็ก ห่อละ 44 บาท อิอิ)
รสกุ้งก็อร่อยพอใช้ได้ มีกลิ่นกุ้งนิดๆ รสปลาออกจะเค็มแต่ก็เป็นรสที่หารับประทานได้ยาก
ส่วนรสคุณหอยเม่นนี่ ตอนเคี้ยวก็เค็มๆ ดีเหมือนขนมอบกรอบทั่วไป แต่สักพักนึงได้รสชาติหอยเม่นที่ติดลิ้น ซึ่งจากประสบการณ์ที่เคยกินหอยเม่นมาแล้วก็ขอรับรองว่า ขนมถุงนี้ มีดีที่รสหอยติดลิ้นจริงๆ
หย่อย หย่อย.

ทาโกยากิกึ่งสำเร็จ (DIY) ขนมที่เป็นของเล่น ของเล่นที่เป็นขนม

อีกนึ่งไอเดียสุดบรรเจิดของคนญี่ปุ่นคือการคิดค้นพวกขนมกึ่งสำเร็จรูป แบบ DIY มาหลอกเด็กๆ (ผู้ใหญ่ก็โดนด้วย) ซึ่งก็มีให้เลือกมากมายทั้งซูชิ พิซซ่าญี่ปุ่น ฯลฯ
วันนี้เราขอนำเสนอ ขนม DIY ทาโกยากิ
หลายคนคงเคยรู้จักทาโกยากิมาบ้างแล้ว มันคือขนมครกญี่ปุ่นที่ใส่ใส้ปลาหมึกยักษ์ ขายดีทีเดียวที่บ้านเรา
เราซื้อคุณทาโกยากิ DIY ของเรามาแบบไม่รู้เลยว่าทำยังไงถึงจะกินได้ (!) คนขายบอกแต่ว่ามันทำง่ายๆ โดยนำส่วนผสมในซองคนๆ กับน้ำแล้วใส่เวฟเท่านั้นเอง
ก็เป็นอันซื้อมา
พอแกะซองเท่านั้นแหละ เฮ้ย ! ทำไมมันมีซองส่วนผสมตั้งเยอะแยะ มีตั้ง 4 ซอง ปรากฎว่า เจ้า 4 ซองนี้ก็แบ่งเป็นส่วนของแป้งที่เป็นส่วนผสมหลัก, ส่วนที่เป็นน้ำซอส, ส่วนที่ใช้ทำตัวปลาหมึก, แล้วก็ส่วนที่ไว้ทำซอสมายองเนส (เดาเอาล้วนๆ - อ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออก)
ตอนแรกถึงกับอึ่งไปว่าแล้วกรูจะกินได้มั้ยเนี่ยะ ดีนะวิธีทำมีรูปประกอบชัดเจนไม่งั้นถึงกับงงกันเลยทีเดียว
แม่พิมพ์ที่ให้มามีทั้งชามสำหรับไว้ผสม ถ้วยตวงน้ำ แม่พิมพ์ทำตัวปลาหมึก และแม่พิมพ์หลักสำหรับทำทาโกกลมๆ
ตอนใส่น้ำคนส่วนผสม (ด้วยช้อนที่เขาก็ให้มาเช่นกัน) คนไปก็บ่นไป เฮ้ย กรูเหนื่อย กรูเสียตังค์ซื้อมาห่อละ 150 บาทกรูยังต้องมาทำอะไรอีกมากมายหลายขั้นตอนเนี้ย
แต่ทำไปทำมาก็สนุกดี โดยเฉพาะตอนที่เวฟเสร็จ เครื่องเวฟเสียงดังกิ๊ง! ...พระเจ้า จะได้กินแล้ว...
สรุปว่าอาหย่อยดีนะ.

คิตแคตรสถั่วแดง ไปกินถั่วแดงจริงเลยดีกว่ามั้ย!!

 

โหวว และแล้วเราก็ได้มาลองคุณคิตแคตรสถั่วแดงของจริงแว้ว!
ไม่ใช่ถั่วแดงธรรมดาแต่เป็น Hokkaido Red Bean
1 กล่องเล็กมี 3 ซอง ซองละ 2 มินิบาร์ ราคาน่าจะ 70 บาท (จำราคาชัวร์ๆ ไม่ได้อีกเช่นกัน ตอนซื้อคิดแต่จะกินอย่างเดียว)
กัดและเคี้ยวนับแต่คำแรกจนคำสุดท้าย ทำให้คิดในใจว่า เฮ้ย ไปกินถั่วแดงจริงๆ เลยดีกว่ามั้ยถ้ารสชาติมันจะเหมือนถั่วแดงซะขนาดนี้!!
โธ้ว! อย่าหลับตากินนะ เดี๋ยวนึกว่ากำลังกินขนมถั่วแดงแบบญี่ปุ๊นญี่ปุ่น
นับเป็นอัจฉริยภาพของคนญี่ปุ่นโดยแท้จริงที่ทำขนมช็อกโกแลตบาร์ให้เป็นรสถั่วแดงให้มีรสหวานมันราวกับกำลังกินถั่วแดงจริงๆ
ขอคำนับ.